เก่งภาษาภายใน 3 เดือน

เรียนมาก็เยอะ แต่ยังพูดภาษาอังกฤษ(หรือภาษาเป้าหมาย)ไม่ได้สักที นี่อาจเป็นปัญหาของหลายๆคนนะคะ เป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้

ปัญหานี้ ไม่ได้เป็นแค่เฉพาะในหมู่เราคนไทยเท่านั้นนะคะ ชาวต่างชาติเอง ก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เบนนี่ ลูอิส (BENNY LEWIS)
อัจฉริยภาพทางภาษาชาวไอริช  เจ้าของหนังสือและเว็บไซน์ชื่อดัง “Fluent in 3 MONTHS”เองก็เคยประสบปัญหานี้เหมือนกัน
เรียนภาษาอังกฤษ
เบนนี่ย้ายไปอยู่ประเทศสเปน ตอนอายุ 21 ปี พร้อมกับลงเรียนภาษาสเปนที่นั่น ด้วยหวังว่า นี่จะเป็นโอกาสที่เขาจะได้เรียนรู้ภาษาสเปน และเป็นวิธีแก้ปัญหาการเรียนภาษาของเขาซะที
6 เดือนผ่านไป หลังจากอาศัยอยู่ในประเทศสเปน เขากลับแทบจะพูดภาษาสเปนไม่ได้เลย  เบนนี่จึงคิดว่าการไปอยู่ในประเทศนั้นๆ อาจจะเป็นวิธีเรียนภาษาที่ดีสำหรับหลายๆคน แต่คงไม่ใช่กับเขา แล้วอะไรล่ะ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา และทำให้เขาสามารถพูดได้มากกว่า 12 ภาษาในปัจจุบัน
วันนี้ดิฉันได้รวบรวมสรุปแนวคิดและเคล็ดลับที่ทำให้ผู้ชายชาวไอริชคนนี้ เป็นหนึ่งในอัจฉริยภาพทางภาษา และขึ้นชื่อว่า เป็น Super learner คนหนึ่งเลย เขาทำได้อย่างไร เป็นดูกันค่ะ
แรงบันดาลใจ เป็นสิ่งสำคัญ
เหตุการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนมุมมองในการเรียนภาษาของเขาก็คือ เขาไปเจอกับ อัจฉริยภาพทางภาษา หรือคนที่พูดได้หลายภาษาคนหนึ่ง  (A polyglot -someone who can speak many languages) ทำให้เขาประทับใจและอยากเป็นเช่นนั้นบ้าง เพราะอยากให้คนประทับใจในตัวเขา รู้สึกว่าเขาเป็นคนฉลาด เขาสามารถพูดได้หลายภาษา
เบนนี่ บอกว่า แรงบันดาลใจนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากๆๆ สาเหตุหนึ่งที่เราพูดภาษาเป้าหมายไม่ได้ ก็เป็นเพราะ เราเรียนไปเพื่อไปสอบเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการใช้ภาษาเลย คุณจะต้องมีความหลงใหลในภาษานั้นๆด้วย  รักมันจนมันทำให้คุณเอาเวลาว่างของคุณไปเรียนภาษาได้ เขายังพบว่า บรรดาอัจฉริภาพทางภาษา ที่สามารถพูดได้หลายภาษา ก็เพราะ พวกเขาเรียนภาษา รักทุกอย่างในภาษานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อให้สามารถอ่านวรรณกรรม หนังสือ ดูหนัง หรือสื่อสารกับคนชาตินั้นๆ ได้    แล้วแรงบันดาลของคุณล่ะ คืออะไร What’s Your Motivation?
2. ทำลายความเชื่อผิดๆ ในการเรียนภาษา
เบนนี่เชื่อว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ อยากเรียนภาษาอะไร คุณก็ทำได้ทั้งนั้น สิ่งเดียวที่เด็กเรียนภาษาได้ดีกว่าผู้ใหญ่ก็เพียงเพราะ เด็กๆไม่กลัวที่จะพูดผิด นี่คือสิ่งที่เราควรจะเรียนรู้จากเด็ก นั่นคือ อย่ากลัวที่จะพูดผิด เพราะยิ่งผิดเราก็ยิ่งได้เรียนรู้ และความเชื่อผิดๆ อื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ฉันไม่มีเวลา ฉันไม่มีชาวต่างชาติมาพูดด้วย ภาษามันยาก บลา บลาๆๆ เบนนี่บอกว่า มันก็เป็นแค่ข้อแก้ตัว เท่านั้นค่ะ
เรียนภาษาอังกฤษภายใน 3 เดือน
3.  เริ่มพูดตั้งแต่วันแรก
“Start from DAY1” หรือ “เริ่มพูดตั้งแต่วันที่ 1″ นี่เป็นประโยคสุดฮิต จากอัจฉริยภาพทางภาษาชาวไอริชคนนี้เลยนะคะ ใครที่เคยเรียนกับเขา หรืออ่านหนังสือของเขาคงจะคุ้นเคยประโยคนี้ดี เบนนี่เชื่อว่า เราควรจะเริ่มพูดภาษาใหม่ที่เราเรียนตั้งแต่วันแรกที่เราเรียนเลย ไม่ต้องรอเรียนจนเข้าใจทุกอย่างก่อนแล้ววันหนึ่งค่อยฝึกสนทนา เบนนี่ยังบอกอีกว่าความจริง ก็คือ วันหนึ่ง วันนั้นของคุณมันไม่มีวันมาถึงหรอกค่ะ คุณจะยังคงรู้สึกยังไม่พร้อมที่จะพูด เพราะยังมีคำศัพท์อีกมากมายที่คุณไม่รู้ มีหลักไวยากรณ์เยอะแยะที่คุณจะต้องเรียนรู้ และที่สำคัญ ”วันหนึ่ง” ของคุณไม่มีวันมาถึงเพราะอาทิตย์หนึ่งมีแค่ 7 วัน (จันทร์- อาทิตย์)และวันหนึ่ง ก็ไม่ได้บรรจุอยู่ใน 1 สัปดหาห์  แหม ฟังเราก็เจ็บจี๊ดดดดเลยนะคะ
4. จำคำศัพท์โดยใช้วิธีเชื่อมโยง
ชาวโรมันนั้นถือว่า ความจำเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งนะคะ พวกเขาจึงเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเทคนิคและการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน นั่นน่าจะเป็นเพราะสมัยก่อน พวกเขาไม่มีสมุด หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ที่จะช่วยจดบันทึกความจำ เช่นเดียวกับคนตาบอดที่ไม่มีทางเลือก พวกเขาจึง
ต้องใช้ความจำในทุกๆเรื่อง
เบนนี่เองก็ใช้วิธีของคนสมัยก่อนมาช่วยในการจำคำศัพท์ค่ะ  เขาเล่าให้ฟังในหนังสือของเขาว่าในการจำคำศัพท์ได้ครั้งละมากๆ รวดเร็ว สนุก และมีประสิทธิภาพนั้น เขาใช้วิธีการเชื่อมโยง นั่นคือเชื่อมโยงคำหรือวลีที่คุณต้องการจะจำ กับรูปภาพ หรือเร่ืองสั้นในจินตาการที่ตลก มีชีวิตชีวา และยากที่จะลืม เช่น
เขาต้องการจะจำคำว่า “gare” ในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า “สถานีรถไฟ” ตอนที่เขาเห็นคำนี้ครั้งแรก เขาก็จะพยายามนึกถึงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ที่ออกเสียงคล้ายหรือใกล้เคียงคำนี้ ซึ่งนั่นคือคำว่า “Garfield” ชื่อตัวการ์ตูน เจ้าแมวอ้วน ขี้เกียจ ตัวสีส้ม ชื่อดังในภาพยนตร์นั่นเอง จากนั้นเขาก็นำคำว่า “gare” กับ “Garfield ” มาสร้างภาพ หรือเรื่องสั้นๆ ที่ตลก และยากที่จะลืม เขาจำโดยจินตาการถึง สถานีรถไฟที่ยุ่ง วุ่นวาย เต็มไปด้วยผู้คน และทันใดนั้นเจ้าการ์ฟีลด์ แมวตัวอ้วน สีส้มก็โผล่มาจากประตู พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ คนก็จ้องมองไปที่เจ้าการ์ฟีลด์ แต่เจ้าแมวอ้วนก็ไม่มีเวลาให้พวกเขาเหล่านั้น เขารีบวิ่งไปดูตารางรถไฟ เหงื่อท่วมตัว เพื่อที่จะเดินทางไป Bologna เมืองที่เขาจะต้องรีบไปแข่งขัน กินลาซานย่า จากนั้น เขาก็รีบวิ่งขึ้นรถไฟ แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เขาวิ่งตามรถไฟขบวนนั้นไป มือหนึ่งก็โยนกระเป๋าเดินทางของเขาขึ้นไปก่อน แล้วเขาก็กระโดดขึ้นรถไฟไปทันพอดิบพอดีค่ะ
มันอาจจะฟังดูตลกนะคะ แต่ทุกครั้งที่ไม่ว่าเขาจะเห็นคำว่า “gare” จากหนังสือภาษาฝรั่งเศสที่ไหน เรื่อง Garfield เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟก็ผุดขึ้นมาทุกครั้ง ทำให้เขาจำคำนี้ได้ ไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ เบนนี่ยังบอกอีกว่า แรกๆ คุณอาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่หากคุณฝึกทำบ่อยๆ
ไม่ช้า ความเร็วในการสร้างภาพ สร้างเรื่องราวในจินตนาการของคุณจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิค เคล็ดลับ คำแนะนำในการเรียนภาษาให้ได้ภายใน 3 เดือนจากอัจฉริยภาพทางภาษาชาวไอริชคนนี้ อีกมากมายนะคะ
ลองเข้าไปหาซื้อหนังสื “Fluent in 3 MONTHS” หรืออ่านเพิ่มเติมจากเว็บไซน์ของเขาได้จากลิ๊งค์ด้านบนนะคะ
หรือดูวิดิโอเพิ่มเติม ที่เบนนี่ ลูอิส ขึ้นพูดบนเวที TED เมื่อหลายปีก่อนได้ ด้านล่างนี้เลยค่ะ

0 comments:

Post a Comment